หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เอไอเอสทุ่ม 500 ล. ปรับแบรนด์ทั่วไทย

 เอไอเอสทุ่มงบ 500 ล้านปรับโฉมโลโก้และแนวคิดใหม่หมดทุกอณู ตั้งเป้าขอสร้างตำนาน “ฮิวเมนแบรนด์” เน้นเข้าถึงใจผู้ใช้แบบเจาะลึก ประกาศพร้อมขอใบอนุญาตทุกใบที่เปิด ระบุ 3G คลื่นใหม่มาแน่ไตรมาส 3 ปีหน้า หากกสทช.อนุมัติภายใน 6 เดือน
   
       นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ตลอดเวลา 21 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสได้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมไทย และช่วยสร้างมาตรฐานคุณภาพการให้บริการในแต่ละยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการนำเรื่องระบบเติมเงินมาให้บริการเป็นรายแรก จนวันนี้มีผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ถึง 69 ล้านเลขหมาย ในแต่ละเดือนมีการใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 180 ล้านครั้งต่อวัน รวมไปถึงมีการเชื่อมต่อเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตมากกว่าวันละ 250 ล้านครั้ง ทำให้อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมมีส่วน Contribute ในส่วนของจีดีพีของประเทศประมาณ 2% ประมาณแสนล้านบาท
   
       เอไอเอสมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสังคม และไลฟ์สไตล์ของคนไทย และเพื่อให้เอไอเอสสามารถสื่อสารกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในตลาดได้ลึกยิ่งขึ้น จึงได้ตัดสินใจทีพัฒนาแบรนด์เอไอเอสขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง โดยการเปลี่ยนจากสัญลักษณ์เดิมที่เป็นลูกโลกแห่งการสื่อสาร ที่สื่อถึงยุคของการให้บริการเสียง ซึ่งทางเอไอเอสได้สร้างมาตรฐานไว้มากมาย มาสู่สัญลักษณ์ใหม่ที่มาจาก “รอยยิ้ม” แทนความเป็นมิตร และ “สีเขียว” ที่สื่อถึงการสร้างสรรค์ เติบโต และแสดงออกทางความรู้สึกที่มุ่งมั่นและชัดเจน สอดคล้องกับการเปิดมิติใหม่ในโลกแห่งข้อมูลและออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ
   
       นายวิเชียรกล่าวถึงสาเหตุที่จะต้องมีการปรับแบรนดืในครั้งนี้ว่า แบรนด์นี้ใช้มา 20 กว่าปีแล้ว เหมาะสมที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ดูเก่ารุ่นใหญ่ไปหน่อย ก็เลยทำให้ดูสดใสขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่งต้องการแยกสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีต จึงได้สร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นสองเหตุผลหลักๆ ซึ่งเปลี่ยนไปตามบริษัทแม่ที่เปลี่ยนไปก่อนหน้านี้
   
       “ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ทางเอไอเอสได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราหลุดพ้นจากเรื่องเล่านั้นแล้ว ดูได้จากรางวัลต่างๆ ที่เราได้รับน่าจะบ่งบอกได้เป็นอย่างดี”
   
       นายวิเชียรยังกล่าวว่า เอไอเอสจะทยอยปรับแบรนด์ไปเรื่อยๆ โดยมีงบในการดำเนินการครั้งนี้ประมาณ 500 ล้านบาท รวมไปถึงการปรับโฉมร้านเทเลวิชทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 480 ร้าน ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราจะไป จริงๆ แล้วความสำคัญไม่ได้อยู่ที่การปรับรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นเรื่องการปรับแนวคิดของพนักงานของเอไอเอสเองที่มีกว่า 9 พันชีวิตให้พร้อมที่จะส่งมอบบริการ โซลูชันและทางเลือกในการให้บริการกับผู้บริโภคมากกว่า”
   
       นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวเสริมว่า แนวคิดของแบรนด์แพลตฟอร์มใหม่ของเอไอเอสในเรื่อง “ชีวิตในแบบคุณ หรือ Your World. Your Way” ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเอไอเอสที่เปลี่ยนโปรดักส์แบรนด์ในวันแรก ก่อนที่จะปรับมาคอนซูเมอร์แบรนด์ที่ใช้อยู่ก่อนหน้านี้ แต่วันนี้เอเอไอสนั้นล้ำหน้าไปกว่าคู่แข่งรายอื่น ด้วยการที่จะก้าวสู่ฮิวแมนแบรนด์ ด้วยการเข้าไปลงลึกถึงในใจผู้บริโภค โดยเอไอเอสพร้อมที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้คุณเชื่อมต่อความรู้สึกได้ในแบบของผู้บริโภค สร้างสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งได้มากยิ่งขึ้น ให้เลือกสร้างความสุขในแบบที่ผู้บริโภคได้ตามต้องการ
   
       “สิ่งที่เรากำลังทำก็คือ การเข้าถึงความต้องการใช้งานของผู้บริโภคในเชิงลึก โดยเฉพาะเรื่องของพฤติกรรมการใช้งานดาต้าในแต่ละบุคคล ซึ่งถือว่า ยังเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เพื่อจะได้นำเสนอแพกเกจลงลึกในแต่ละเซกเมนต์ได้สอดคล้องกับพฤติกรรมมากที่สุด”
   
       อีกส่วนหนึ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงก็คือในส่วน คอลลิตี้ ดีเอ็นเอ ไม่ว่าจะเป็นดีไวซ์ เครือข่าย รวมไปถึงเซอร์วิส ที่จะเห็นพนักงานของเอไอเอสจะเป็นจากผู้ให้บริการ มาเป็นที่ปรึกษาแทน พนักงานทุกคนจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานทุกๆ เรื่อง อย่างถ่องแท้ โดยผู้บริโภคจะเป็นผู้บอกว่า ต้องการอะไร เราก็จะให้คำปรึกษา สร้างทางเลือกขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
   
       “ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นคงไม่ได้เฉพาะแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไป แต่จะเป็นการเปลี่ยนจนภายในของเอไอเอสด้วย
   
       นายวิเชียรยังได้กล่าวถึงแนวทางการขอใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการวิทยุ กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมหรือกสทช.ว่า ทางเอไอเอสสนใจเข้าร่วมทุกใบอนุญาต โดยเฉพาะ 3G คลื่นความถี่ 2.1 GHz ซึ่งถือเป็นคลื่นความถี่มาตรฐานของการให้บริการ 3G การทำ 3G ในเวลาของประเทศไทยจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องสัมปทานอยู่ แต่ถ้าเป็นใบอนุญาตใหม่ก็จำทให้การแข่งขันมีความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอีกต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเห็น 3G คลื่นใหม่อย่างน้อยก็ภายในไตรมาส 3 ของปีหน้า การใช้เวลาในการติดตั้งเครือข่ายต้องมีอย่างน้อย 3-6 เดือน นั้นหมายถึงว่า จะต้องเห็นใบอนุญาตออกมาภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้
   
       สำหรับการลงทุนเครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 900 MHz นั้น นายวิเชียรระบุว่า ทางเอไอเอสจะมีการลงทุนในสถานีฐาน 3G เพิ่มเป็น 3,500 สถานีฐานภายในปีนี้ จากเดิมที่ขออนุญาตติดตั้งรวมทั้งหมด 1,8000 สถานีฐาน เพิ่มขึ้นประมาณ 1,7000 สถานีฐาน ถึงแม้จะมีติดตั้งสถานีฐานเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงไม่มีการปรับเป้ายอดผู้ใช้ 3G จาก 1 ล้านรายสิ้นปีนี้แต่ประการใด และเชื่อว่าตัวเลข 2 ล้านรายในปีหน้าก็ยังคงเดิม
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...