หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

MVNO ส่งต่อบริการ

MVNO (Mobile Virtual Network Operators) หมายถึง ผู้ขอใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทขายต่อบริการ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ในการร่วมธุรกิจของ MVNO ตามประกาศของกทช. ปัจจุบันการประกอบกิจการโทรคมนาคมได้เปิดเสรีทางธุรกิจ ไม่มีกฎหมายกำหนดอำนาจให้ผู้ใดเป็นผู้ดำเนินการโดยเฉพาะ กทช. ได้อนุมติให้ ทีโอที ประกอบกิจการประเภทขายส่งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 โดยมีเงื่อนไขดังนี้

1. ให้ ทีโอที ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศ กทช. เรื่องการประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทขายส่งบริการบริการขายต่อบริการ และระเบียบ/ประกาศที่ กทช. กำหนดโดยเคร่งครัด
2. ให้ ทีโอที รายงานสถานการณ์ประกอบกิจการขายส่งให้ กทช. ทราบทุก 3 เดือน
3. ให้ ทีโอที ส่งแผนการดำเนินธุรกิจ ( Business Model ) ที่ยึดหลักการให้บริการแบบผู้ให้บริการแบบโครงข่าย ( Network Provider ) หรือการให้บริการแบบขายส่ง ( Wholesaler )

4. ให้ ทีโอที ส่งแผนความรับผิดชอบต่อสังคม ( Corporate Social Responsibility : CSR ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรับผิดชอบในเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์ และจัดทำแผนความเสี่ยงเพื่อรองรับด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
5. ให้ สกทช. แจ้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกรณี MVNO ที่จะขอทำธุรกิจกับ ทีโอที ถ้ามีมูลค่าเกินหนึ่งพันล้านบาท จะต้องดำเนินการตาม พรบ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ตามข้อสังเกตุของคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ

MVNO เป็นเพียงผู้ให้บริการแก่ผู้บริโภค โดยใช้ตราสินค้า (Brand) ของตัวเองเป็นหลัก จะมีเพียงระบบบางส่วนที่ MVNO ลงทุนสร้างขึ้น เช่น Application Server สำหรับให้บริการลูกค้า โดยไม่ต้องลงทุนด้านอุปกรณ์โครงข่ายใด ๆ

บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเครือข่าย (Mobile Network Operator : MNO) ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมขายส่งบริการตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และเป็นผู้มีสิทธิให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ซึ่งจะเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในระยะแรกในวันที่ 3 ธันวาคม 2552 จึงได้ประกาศเชิญชวนผู้สนใจที่ได้รับใบอนุญาตหรืออยู่ระหว่างขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทบริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ประสงค์จะขอทำธุรกิจขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G (Mobile Virtual Network Operator : MVNO) กับ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2552 โดยได้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เข้าร่วมทำธุรกิจขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ( MVNO) ดังนี้
1. ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีการจดทะเบียนก่อตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5ล้านบาท (ชำระเต็มมูลค่า) โดยมีหลักฐานการจดทะเบียน ซี่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ออกให้หรือรับรองไม่เกิน 6 เดือน นับถึงวันยื่นความประสงค์
2. ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตหรืออยู่ระหว่างการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทบริการขายต่อบริการ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
3. ต้องมีตราสินค้า (Brand) หรือได้รับสิทธิให้ใช้ตราสินค้าที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และมีช่องทางการจำหน่ายที่กว้างขวาง

tot3g_mvno
บริษัทที่เสนอเป็นผู้ขอใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G (MVNO) กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน มีจำนวน 5 ราย ดังนี้
imobile 1. บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)

icool 2. บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)

mojo 3. บริษัท เอ็มคอนซัลท์ จำกัด

iec 4. บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด

365 5. บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด

ประโยชน์ที่ บมจ.ทีโอที จะได้จากการทำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กับผู้ให้บริการขายต่อบริการ (MVNO)ในส่วนของรายได้ บมจ.ทีโอที จะมีรายได้จากการทำธุรกิจกับ MVNO ดังนี้
1. รายได้จากจำหน่าย SIM Card
2. รายได้จากการจำหน่ายบัตรเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G (Voucher)
3. รายได้ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ได้แก่ Voice, SMS, MMS, Internet, Video Calling เป็นต้น
4. รายได้ค่าบริการระบบสนับสนุน บริการระบบจัดทำบิล
5. รายได้ค่าบริการระบบสนับสนุน บริการ Call Center
6. รายได้อื่น ๆ

ในส่วนของค่าใช้จ่าย บมจ.ทีโอที สามารถลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงได้ ดังนี้
1. ค่าการจัดการส่วนของระบบจัดเก็บเงิน (Billing)
2. ค่าใช้จ่ายในการขาย
3. ค่าใช้จ่ายในการทำตลาด
4. ค่าใช้จ่ายในส่วนของการบริการลูกค้า
5. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...